วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2551

กลอนวันพ่อ


เพราะพ่อคือ เทพบุตร สุดประเสริฐ
พระคุณเลิศ ล้นฟ้า มหาศาล
ยามลูกน้อย เจ็บป่วย ช่วยพยาบาล
แสนสำราญ ในอกพ่อ หนออุ่นจัง

เพราะพ่อคือ หนึ่งใน ใจลูกหล้า
พ่อเมตตา ดูแล ไม่เหห่าง
สำนึกใน พระคุณ ช่วยส่องทาง
ทางสว่าง ก้าวไป ในความดี
 

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

ลอยกระทงคร้าาาา


ประวัติความเป็นมาของเทศกาลวันลอยกระทง
คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยู่หลายตำนาน ดังนี้

1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา

2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร

3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา

4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ

5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า

6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก

7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล  


การลอยกระทงในปัจจุบัน


การลอยกระทงในปัจจุบัน ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่องสักการบูชา ก่อนทำการลอยในแม่น้ำก็จะอธิษฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคา

              ตามคุ้มวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภชในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

            วัสดุที่นำมาใช้กระทง ควรเป็นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ





วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551

วัดไทยในฝรั่งเศสจร้า

วัดนี้ชื่อ  วัดธรรมปทีป

วัดธรรมปทีป ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ธันวาคม 2542 ที่ผ่านมา โดยพุทธสมาคมไทยนานาชาติแห่งประเทศฝรั่งเศส (Association Internationale thai des Bouddhistes en France ) ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 22 rue Alfreed de Musset 77176 Savigny le Temple ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นถูกต้องตามกฎหมายของประเทศฝรั่งเศส ( Vu La loi du 1er juillet 1901 relative au contrat d’association ) ซึ่งว่าด้วยการจัดตั้งสมาคมองค์กรการกุศล โดยได้รับอนุญาตจากหน่วยงานราชการของประเทศฝรั่งเศส ( PREFECTURE DE LA SEINE-ET-MARNE ) เมื่อวันที่ 25 janvier 2000 และได้รับการประกาศชื่อสมาคมถูกต้องอย่างเป็นทางการในหนังสือราชการของทางการฝรั่งเศส (JOURNAL OFFICIEL DE LA REPUBLIQUE FRANCAISE ) เมื่อวันที่ 19 Fevrier 2000 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศฝรั่งเศสและภาคพื้นสหภาพยุโรป และมีพระมหาเกรียงไกร ธีรรํสิโก เป็นเจ้าอาวาสและประธานพุทธสมาคมไทยนานาชาติแห่งประเทศฝรั่งเศส โดยต้นทุนในการดำเนินการจัดตั้งวัดนั้น ทางสมาคมฯ ได้จัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศลซื้อที่ดินสร้างวัดไทยในประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ ธันวาคม 2542 ที่ผ่านมาโดยมีวัตุถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ รอบ 72 พรรษา เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศฝรั่งเศสของคณะสงฆ์ธรรมยุต และเพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธทุกเชื้อชาติ ได้ปัจจัยจำนวน 320,504 ฟรังซ์ (สามแสนสองหมื่นห้าร้อยสี่ฟรังค์ถ้วน ) และได้นำเงินจำนวน 15,000 ฟรังซ์ ( หนึ่งหมื่นห้าพันฟรังค์ถ้วน ) ทูลเกล้า ฯ โดยผ่านสถานเอกอัครราชทูต ปัจจัยส่วนที่เหลือได้นำไปเป็นทุนทรัพย์ในการสร้างวัดต่อไป





วัตถุประสงค์ของการสร้างวัดธรรมปทีป
1. 
เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในมหามงคลวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 6รอบ 72 พรรษา
2. 
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการศึกษาและเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศฝรั่งเศสและยุโรปของคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุต
3. 
เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
4. 
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ประเพณี ศิลปะ ภาษา วัฒนธรรมไทยต่างๆ
5. 
เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนและรัฐบาลฝรั่งเศส ถึงความจำเป็นที่ประชาชนชาวเอเชียต้องมีพระพุทธศาสนาเป็นที่พึ่งทางใจ
6. 
เพื่อเป็นศูนย์กลางในการติดต่อประสานงานและอำนวยการ ในการเผยแผ่
พระพุทธศาสนาของพระธรรมทูตไทยเพื่อประโยชน์สุขของชาวพุทธในประเทศฝรั่งเศสและยุโรป
7. 
เพื่อดำเนินการจัดสร้างวัดอย่างเป็นทางการในประเทศฝรั่งเศส




สถานที่ตั้งของวัดธรรมปทีป
ในปัจจุบัน ทางสมาคมฯ ได้ดำเนินการจัดการเซ็นสัญญาจัดซื้อที่ดินที่ Chateau de Lugny MOISSY CRAMAYEL 77550 มีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ มีอาคารที่พัก จำนวน หลัง มีรั้วรอบขอบชิดเป็นเอกเทศ อยู่ในเขตเมืองมอสซี่ คามาเยล ห่างจากกรุงปารีสประมาณ 50 กิโลเมตร อาคารที่พัก หลัง มีห้องพัก 50 ห้อง มีอาคารโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ 1 หลัง ห้องเรียน อาคารสำหรับผู้ต้องการฝึกอบรมกัมมัฎฐาน
หลังมีห้องพัก 10 ห้อง มีศาลาการเปรียญ หลังใหญ่ มีห้องครัวใหญ่ ส่วนหนึ่งของบริเวณวัดเป็นป่าใหญ่




ราคาการซื้อขาย
ราคา 3,300,000 ฟรังซ์ โดยทางสมาคม ฯ ได้ขอกู้เงินจากธนาคาร BANQUE FRANCAISE DE CREDIT COOPERRATIF เป็นเงินจำนวน 2,950,000 ฟรังซ์
โดยผ่อนชำระเดือนละ 24,000 ฟรังซ์ เป็นระยะเวลา 10 ปีโดยทางวัดได้เชิญชวนให้ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันเป็นเจ้าภาพบริจาคเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าถวายภัตตาหารเช้า – เพล และร่วมสร้างวัดธรรมปทีป เดือนละ 99 ฟรังซ์ หรือตามจิตศรัทธา 
ในปัจจุบันทางวัดมีผู้บริจาคให้กับทางวัดจำนวน 700 คน ต่อเดือน คิดเป็นเงินประมาณ 70,000 ฟรังซ์ ทำให้การเงินของทางวัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการด้วยดี และได้เริ่มเปิดวัดอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2543 
ที่ผ่านมา โดยมีคณะพระมหาเถระฝ่ายธรรมยุตอันมีพระเดชพระคุณ พระญาณวโรดม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส กรรมการมหาเถรสมาคม เลขาธิการคณะธรรมยุต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
ในปัจจุบัน โครงการสร้างวัดไทยในประเทศฝรั่งเศส ได้รับการสนับสนุนจาก ประชาชนทั่วไป และมีประชาชนชาวไทย ชาวเขมร ชาวลาว ชาวเวียดนาม ชาวจีน และชาวฝรั่งเศส ที่ความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ให้ความสนใจและถวายการ
อุปภัมภ์บำรุงมิได้ขาดจนกาลปัจจุบันนี้





วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2551

ความรู้เกี่ยวกับฝรั่งเศส



ภูมิอากาศ มี 3 ประเภท คือแบบภาคพื้นสมุทร แบบภูเขา และแบบเมดิเตอร์เรเนียน ในส่วนของนครปารีส นั้น มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปี 12 องศาเซลเซียส แต่เอาแน่อะไรกับภูมิอากาศปารีสไม่ค่อยได้ ฝนตกได้ทุกฤดูกาล และบางทีอุณหภูมิหน้าหนาวลดลงกว่า 3 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่าถ้าจะไปปารีส ก็ต้องเตรียมตัวรับหลายสถานการณ์ ทางใต้ของฝรั่งเศส มีอากาศอบอุ่นที่สุดเป็นเขตที่มีลมชื่อ มิสทรัล (Mistral) พัดผ่านในราวฤดูใบไม้ผลิ
จำนวนประชากร : 58.3 ล้านคน ( 01 มกราคม 2539) เป็นอันดับที่ 17 ของโลกความหนาแน่นของประชากร : 105 คน ต่อตารางกิโลเมตร
พื้นที่ : มีพื้นที่ 551,000 ตารางกิโลเมตร เป็นประเทศที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดในยุโรป หรือหนึ่งในสี่ของพื้นที่ในประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หากมองดูจากแผนที่ประเทศฝรั่งเศสแล้ว จะเห็นว่าเป็นเหมือนรูปหกเหลี่ยม ดังนั้นบางครั้งคนฝรั่งเศสจึงเรียกประเทศของตนว่า L'hexagone ซึ่งแปลว่ารูปหกเหลี่ยม
การปกครอง : การปกครองแบบรัฐธรรมนูญปี 1958 แก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี 1962 มีประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศ (คนปัจจุบัน President Jacques Chirac) เข้าดำรงตำแหน่งโดยการเลือกตั้ง ซึ่งมีขึ้นทุกๆ 7 ปี ประธานาธิบดีจะเป็นผู้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ รัฐสภา ประกอบด้วย 2 สภา สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก (สส) ที่มาจากการเลือกตั้งทุกๆ 5 ปี วุฒิสภา ประกอบด้วยสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งทางอ้อมทุกๆ 9 ปี และ 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกเลือกตั้งทุกๆ 3 ปี
เพลงชาติ ลา มาร์แซยแยสา (La Marseillaise) แต่งโดย รูเชต์ เดอ ลิลล์ (Rouget De Lisle) โดยคำสั่งของนายกรัฐมนตรีเมืองสตราสบูร์กเมื่อปี 1792 เดิมมีชื่อว่า าเพลงรบกองทัพแห่งไรน์า (Chant de Guerre pour I'Armee du Rhine) ซึ่งมีท่วงทำนองและเนื้อร้องที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้ติดปากชาวฝรั่งเศส และเปลี่ยนมาเป็นเพลงประจำชาติในชื่อของ าลา มาร์แซยแยสา เมื่อปี 1795

อาหารจานเด็ด หากไปถึงฝรั่งเศสอย่าลืมลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อเหล่านี้1. Fruits de mer คืออาหารทะเลสดๆ ประกอบด้วยกุ้ง หอย และปูหลากชนิดลวกพอสุก จัดวางบนน้ำแข็งเกล็ดในถาดใบโต รับประทานโดยการบีบมะนาว และจิ้มน้ำส้มสายชูใส่หัวหอมซอย ถ้าจะให้ดีต้องกลั้วคอด้วยไวน์ขาว และแนมให้หนักท้องด้วยข้าวไรย์ทาเนย อาหารจานนี้เป็นอาหารเมืองชายทะเลภาคตะวันตก2. Cog au vin หรือ ไก่อบซอสไวน์แดงใส่หอม และเห็ดดุม เป็นอาหารที่ภัตตาคารแทบทุกแห่งจะต้องบรรจุไว้ในเมนู3. Soupe a l oignon หรือซุบหัวหอม เป็นอาหารที่สำคัญอีกจานหนึ่ง หอมหัวใหญ่จะถูกหั่นเป็นเส้นบางๆ เคี่ยวจนเกือบเละในน้ำซุปรสเข้ม เมื่อจะเสิร์ฟ จึงลอยขนมปังที่อบร้อนโดยมีเนยแข็งวางอยู่ข้างบน4. Escargots a la Bourguignonne หอยทากเอสคาร์โกอบจนสุก พอออกจากเตาร้อนๆก็เอาเนยสดที่ผสมเครื่องเทศใส่ลงไปจนเต็มปากหอย รับประทานเรียกน้ำย่อย5. Pate de foie gras ตับบดปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ทำจากตับห่านหรือตับเป็ด หากไม่บดก็อาจเป็นชิ้นๆ ปรุงด้วยเหล้าบรั่นดี
ช้อปปิ้ง น้ำหอม นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมซื้อน้ำหอมยี่ห้อที่ฝรั่งเศสเป็นต้นตำรับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าที่นำมาขายในต่างประเทศมาก เมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตหัวน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ได้แก่เมืองนีส คานส์ ริเวียร่า เป็นต้น ยี่ห้อน้ำหอมที่ขึ้นชื่อที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าตำรับได้แก่ Christian Dior และน้ำหอมของ Caron, Givenchy, Rochas, Guerlain, Paco Rabanne เป็นต้น
เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น ฝรั่งเศสมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะศูนย์รวมของดีไซเนอร์ชื่อดัง และเป็นต้นฉบับของแฟชั่นทั่วโลก
เครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์ฝรั่งเศสมีชื่อด้านนี้อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การเป็นแหล่งผลิตของไวน์ และแชมเปญที่สำคัญที่สุดของโลกในปัจจุบันไวน์ (Vin) หรือเหล้าองุ่นเริ่มผลิตขึ้นในฝรั้งเศสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยุคโรมัน

ธงชาติ ธงไตรรงค์ หรือ Tricolore เป็นธงต้นฉบับของธงชาติที่หลายประเทศนำมาใช้ ซึ่งประกอบด้วย 3 สี คือ แดง น้ำเงิน ขาว เดิมทีธงลาฟาแยต (La Fayette) ซึ่งในขณะนั้นมี 2 สี คือ แดง และ น้ำเงิน อันเป็นสัญลักษณ์ของกองทหารรักษาพระนครในกรุงปารีสได้ก่อการปฏิวัติ ต่อมาในปี 1789 (พ.ศ. 2332) มีการเพิ่มสีขาวอันเป็นสัญญลักษณ์แห่งความภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ในพระราชวงศ์บูร์บองส์เข้าไป และได้นำมาใช้เป็นธงชาติมาตราบเท่าทุกวันนี้
เงินตรา และธนาคารหน่วยเงินของฝรั่งเศส : คือฟรังค์ (FF) 1 ฟรังค์มีค่าเท่ากับ 100 ซองตีม (เซนต์) ซึ่งมีมูลค่าเป็นเงินไทยประมาณ 7 บาท (เดือน มิถุนายน 2541) ธนบัตรฝรั่งเศสมีมูลค่า 500,200,100,50 และ 20 ฟรังค์ เงินเหรียญของฝรั่งเศสมีมูลค่า 50,20,10 และ 5 ซองตีม เหรียญ 50 ซอง จะออกมาในลักษณะ ฟรังค์

มีึอารายเด่ ๆ จามาบอก









วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2551

ไวน์


ใครที่ชอบดื่มไวน์ รู้หรือไม่ว่า ไวน์สามารถป้องกันโรคสมองเสื่อมได้

จากการวิจัย พบว่า การดื่มไวน์วันละครึ่งแก้ว สามารถช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมอย่าง “อัลไซเมอร์” และ “พาร์คินสัน” ได้

คณะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมิลานในอิตาลี พบว่า สาร “รีเซอร์เวทรอล” ในองุ่นและไวน์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเอนไซม์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นการสร้างเซลล์สมอง

ดร.อัลเบอร์โต เบอร์เทลลี หัวหน้าคณะวิจัย กล่าวว่า “รีเซอร์เวทรอล” ยังช่วยเซลล์สมองสร้างส่วนขยายของเซลล์ ซึ่งอาจจะทำให้มันสามารถเชื่อมต่อกับเซลล์ข้างเคียงได้อีกด้วย

กิจกรรมดังกล่าวของเซลล์สมองจะช่วยฟื้นฟูสมองของคนชรา ทำให้สามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้

ถ้าจะดื่มไวน์ป้องกันโรคสมองเสื่อม ต้องดื่มวันละน้อย อย่าดื่มมากจนเกินไป เพราะอาจจะเปลี่ยนจากผลดีเป็นผลเสียได้

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

โอลิมปิก 2008 ก่ะตุ๊กตา



งานโอลิมปิกได้เริ่มขึ้นแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก ครั้งที่ 29 หรือ Beijing 2008 ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งสีสันของงานกีฬาครั้งนี้ก็มีข่าวออกมาให้เห็นกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดวันเปิดงานอย่างเป็นทางการที่เป็นมงคลสอดคล้องกับยุค 8 ตามหลักฮวงจุ้ย ในวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 ณ เวลา 08.08 น. หรือ แม้กระทั่งความอลังการของสเตเดียม ศูนย์แข่งขันกีฬาทางน้ำ และการเปิดตัว ฯลฯ ที่ต่างก็สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยทั้งสิ้น
หันมาดูอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ตุ๊กตาฝูวา" มาสคอตนำโชค ประจำกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งมีมากถึง 5 ตัว เรียกได้ว่ามีมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของโอลิมปิกเลยก็ว่าได้ แต่ขอบอกว่าทั้ง 5 มีนัยยะที่เป็นมงคลแฝงอยู่ด้วยหล่ะ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ฝูวา ทั้ง 5 ตัวนี้กันค่ะ










ตัวแรก เป้ยเป้ย (Beibei) คือ สัญลักษณ์ของปลา ซึ่งมีสีฟ้าสดใสของท้องทะเล หรือสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ อันเป็นที่มาแห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์นั่นเอง ทำหน้าที่ส่งมอบความเจริญรุ่งเรือง ส่วนหัวของหนูน้อยเป้ยเป้ย ประดับด้วยลวดลายปลา ที่นิยมในยุคเครื่องมือหินใหม่ของจีน อุปนิสัยเป้ยเป้ยบริสุทธิ์อ่อนโยน เป็นยอดฝีมือแห่งกีฬาทางน้ำ เป็นตัวแทนห่วงสีฟ้าในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล



จิงจิง (Jingjing) เป็นหมีแพนด้า หน้าตายิ้มแย้มไร้เดียงสา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะนำความสุขสดใสไปมอบให้ทุกคน เปรียบเหมือนความสมานฉันท์อันดีระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ส่วนหัวของจิงจิงประดับด้วยลวดลายกลีบดอกบัวตามลักษณะเครื่องเคลือบสมัยซ้อง หนูน้อยจิงจิงไร้เดียงสามองโลกในแง่ดี มีพละกำลังเต็มเปี่ยม เป็นตัวแทนห่วงสีดำในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล






ฮวนฮวน (Huanhuan) หรือ หนูน้อยลูกไฟ เป็นพี่ใหญ่ในบรรดาเด็กน้อยนำโชคทั้ง 5 และเป็นสัญลักษณ์ของไฟโอลิมปิก ฮวนฮวนเป็นตัวแทนของอารมณ์ที่ฮึกเหิมของนักกีฬา และจะส่งมอบจิตวิญญาณของกีฬาโอลิมปิกที่สนุกสนานและเข้มแข็งไปยังทุกสถานที่ที่ไปถึง




ส่วน อิ๋งอิ๋ง (Yingying) คือ ละมั่งทิเบต สัตว์สงวนของที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต มีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มาจากพื้นที่ภาคตะวันตกที่กว้างสุดลูกหูลูกตาของจีน อิ๋งอิ๋งเป็นตัวแทนส่งมอบความสุขสมบูรณ์ที่แข็งแรงให้แก่โลก เป็นการแทนความหมายของโอลิมปิกสีเขียว (หรือโอลิมปิกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)


หนีหนี่ (Nini) คือ เจ้านกนางแอ่นน้อย สีเขียวสดใส เครื่องประดับบนหัวของหนีหนี่ คือ นกนางแอ่นปีกทอง มีความหมายถึงผืนฟ้าอันไร้ขอบเขต นิสัยของหนีหนี่ ไร้เดียงสา ไม่เป็นพิษเป็นภัย และหนีหนี่จะเป็นตัวแทนความสดใส เบิกบานที่จะส่องประกายบนสนามแข่งขันยิมนาสติก เป็นตัวแทนห่วงสีเขียวในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล

ทั้งนี้ หากนำชื่อของมาสคอตทั้ง 5 มาเรียงกัน ก็จะได้ประโยคว่า เป้ยจิง ฮวนอิ๋ง หนี่ ซึ่งแปลว่า "ปักกิ่งยินดีต้อนรับคุณ" นั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าสีของตุ๊กตาทั้ง 5 นี้สอดคล้องกับธาตุทั้ง 5 ตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ สีฟ้าแห่งธาตุน้ำของเป้ยเป้ย สีขาวแห่งธาตุโลหะของจิงจิง สีแดงธาตุไฟของฮวนฮวน สีเหลืองธาตุดินของอิ๋งอิ๋ง และสีเขียวธาตุไม้ของหนีหนี่

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นาฬิกาชีวิต


มีเพื่อนที่เห็นการใช้ชีวิตของเราแบบน่าเป็นห่วง ส่งเรื่องราวนี้มาให้อ่าน เพื่อปรับปรุงเวลาในการใช้ชีวิตให้อายุยืนยาว และมีสุขภาพตามวัย จึงอดไม่ได้ที่จะต้องนำมาเล่าต่อค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า..
การแพทย์ตะวันออกถือว่า กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก โดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้นภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย อวัยวะตันและอวัยวะกลวง
อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต
อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว)
การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต"

1.00-3.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อนถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรคทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endorphin) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว

3.00-5.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด ควรตื่นขึ้นมาสูดอากาศรับแดดตอนเช้า ผู้ที่ตื่นช่วงนี้ประจำ ปอดจะดี ผิวดี และเป็นคนมีอำนาจในตัว???

5.00-7.00 น. ลำไส้ใหญ่ ควรถ่ายให้เป็นนิสัย คนเรามักไม่ตื่นกันตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาที่ลำไส้ต้องบีบอุจจาระลง เมื่อไม่ตื่นจึงบีบขึ้น เมื่อไม่ถ่ายตอนเช้าลำไส้ใหญ่จึงรวน แล้วจะมีอาการปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อน แล้วจะนอนกรนในที่สุด

7.00-9.00 น. กระเพาะอาหาร กินเข้าเช้าตอนนี้จะดี กระเพาะแข็งแรง ถ้ากระเพาะอ่อนแอ จะทำให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย ถ้าไม่กินข้าวเช้าอุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็นถ้าถ่ายออกหมดจะไม่มีกลิ่นตัวเท่าไหร่

9.00-11.00 น. ม้าม ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย หน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดหัวบ่อยมักมาจากม้าม อาการเจ็บชายโครงมาจากม้ามกับตับ ม้ามโต จะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ม้ามชื้น อาหารแและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน ทำให้อ้วนง่าย คนที่หลับช่วง 9.00-11.00 ม้ามจะอ่อนแอ ม้ามยังโยงไปถึงริมฝีปากคนที่พูดมากช่วงนี้ม้ามจะชื้น ควรพูดน้อยกินน้อย ไม่นอนหลับ ม้ามจะแข็งแรง

11.00-13.00 น. หัวใจ หัวใจจะทำงานหนักช่วงนี้ ให้หลีกเลี่ยงความเครียด หรือใช้ความคิดหนัก หาทางระงับอารมณ์ไว้

13.00-15.00 น. ลำไส้เล็ก **ควรงดกินอาหารทุกประเภท** เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน ลำไส้เล็กทำหน้าที่ดูดสารอาหารที่เป็นน้ำเพื่อสร้างกรดอะมิโนสร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง

15.00-17.00 น. กระเพาะปัสสาวะ จะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้ควรทำให้เหงื่อออก จะออกกำลังการหรืออบตัวกระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง การอั้นปัสสาวะบ่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทำให้เหงื่อเหม็น

17.00-19.00 น. ไต ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนตอนนี้ ถ้าง่วงแสดงว่าไตเสื่อม ยิ่งหลับแล้วเพ้อ อาการยิ่งหนัก

19.00-21.00 น. เยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงนี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ หัวเราะ

21.00-23.00 น. เวลาของระบบความร้อนของร่างกาย ต้องทำร่างกายให้อุ่น ห้ามอาบน้ำเย็นเวลานี้จะเจ็บป่วยได้ง่าย ช่วงนี้อย่าตากลมเพราะลมมีพิษ

23.00-1.00 น. ถุงน้ำดี เป็นถุงสำรองน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะใดขาดน้ำ จะดึงมาจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น อารมจะฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวมปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก ตอนเช้าจะจาม ถุงน้ำดีจะโยงถึงปอดจะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23.00 น.
สรุป
1.00-3.00 น. นอนซะ3.00-5.00 น. ตื่นมาสูดอากาศ5.00-7.00 น. ขับถ่าย7.00-9.00 น. กินข้าวเช้า9.00-11.00 น. อย่าพูดมาก กินน้อยๆ อย่านอน11.00-13.00 น. หลีกเลี่ยงความเครียด13.00-15.00 น. ห้ามกิน15.00-17.00 น. ออกกำลังหรืออบตัวให้เหงื่อออก17.00-19.00 น. ทำให้สดชื่น อย่าง่วง19.00-21.00 น. ทำสมาธิ21.00-23.00 น. ทำตัวให้อุ่นๆ ไว้23.00-1.00 น. กินน้ำก่อนนอน