วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2551

โอลิมปิก 2008 ก่ะตุ๊กตา



งานโอลิมปิกได้เริ่มขึ้นแล้ว สำหรับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก ครั้งที่ 29 หรือ Beijing 2008 ที่ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งสีสันของงานกีฬาครั้งนี้ก็มีข่าวออกมาให้เห็นกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดวันเปิดงานอย่างเป็นทางการที่เป็นมงคลสอดคล้องกับยุค 8 ตามหลักฮวงจุ้ย ในวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 ณ เวลา 08.08 น. หรือ แม้กระทั่งความอลังการของสเตเดียม ศูนย์แข่งขันกีฬาทางน้ำ และการเปิดตัว ฯลฯ ที่ต่างก็สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ยทั้งสิ้น
หันมาดูอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "ตุ๊กตาฝูวา" มาสคอตนำโชค ประจำกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งมีมากถึง 5 ตัว เรียกได้ว่ามีมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาของโอลิมปิกเลยก็ว่าได้ แต่ขอบอกว่าทั้ง 5 มีนัยยะที่เป็นมงคลแฝงอยู่ด้วยหล่ะ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ฝูวา ทั้ง 5 ตัวนี้กันค่ะ










ตัวแรก เป้ยเป้ย (Beibei) คือ สัญลักษณ์ของปลา ซึ่งมีสีฟ้าสดใสของท้องทะเล หรือสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ อันเป็นที่มาแห่งความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์นั่นเอง ทำหน้าที่ส่งมอบความเจริญรุ่งเรือง ส่วนหัวของหนูน้อยเป้ยเป้ย ประดับด้วยลวดลายปลา ที่นิยมในยุคเครื่องมือหินใหม่ของจีน อุปนิสัยเป้ยเป้ยบริสุทธิ์อ่อนโยน เป็นยอดฝีมือแห่งกีฬาทางน้ำ เป็นตัวแทนห่วงสีฟ้าในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล



จิงจิง (Jingjing) เป็นหมีแพนด้า หน้าตายิ้มแย้มไร้เดียงสา ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็จะนำความสุขสดใสไปมอบให้ทุกคน เปรียบเหมือนความสมานฉันท์อันดีระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ส่วนหัวของจิงจิงประดับด้วยลวดลายกลีบดอกบัวตามลักษณะเครื่องเคลือบสมัยซ้อง หนูน้อยจิงจิงไร้เดียงสามองโลกในแง่ดี มีพละกำลังเต็มเปี่ยม เป็นตัวแทนห่วงสีดำในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล






ฮวนฮวน (Huanhuan) หรือ หนูน้อยลูกไฟ เป็นพี่ใหญ่ในบรรดาเด็กน้อยนำโชคทั้ง 5 และเป็นสัญลักษณ์ของไฟโอลิมปิก ฮวนฮวนเป็นตัวแทนของอารมณ์ที่ฮึกเหิมของนักกีฬา และจะส่งมอบจิตวิญญาณของกีฬาโอลิมปิกที่สนุกสนานและเข้มแข็งไปยังทุกสถานที่ที่ไปถึง




ส่วน อิ๋งอิ๋ง (Yingying) คือ ละมั่งทิเบต สัตว์สงวนของที่ราบสูงชิงไห่-ทิเบต มีความเฉลียวฉลาด คล่องแคล่วว่องไว มาจากพื้นที่ภาคตะวันตกที่กว้างสุดลูกหูลูกตาของจีน อิ๋งอิ๋งเป็นตัวแทนส่งมอบความสุขสมบูรณ์ที่แข็งแรงให้แก่โลก เป็นการแทนความหมายของโอลิมปิกสีเขียว (หรือโอลิมปิกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)


หนีหนี่ (Nini) คือ เจ้านกนางแอ่นน้อย สีเขียวสดใส เครื่องประดับบนหัวของหนีหนี่ คือ นกนางแอ่นปีกทอง มีความหมายถึงผืนฟ้าอันไร้ขอบเขต นิสัยของหนีหนี่ ไร้เดียงสา ไม่เป็นพิษเป็นภัย และหนีหนี่จะเป็นตัวแทนความสดใส เบิกบานที่จะส่องประกายบนสนามแข่งขันยิมนาสติก เป็นตัวแทนห่วงสีเขียวในสัญลักษณ์โอลิมปิกสากล

ทั้งนี้ หากนำชื่อของมาสคอตทั้ง 5 มาเรียงกัน ก็จะได้ประโยคว่า เป้ยจิง ฮวนอิ๋ง หนี่ ซึ่งแปลว่า "ปักกิ่งยินดีต้อนรับคุณ" นั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเมื่อสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าสีของตุ๊กตาทั้ง 5 นี้สอดคล้องกับธาตุทั้ง 5 ตามหลักฮวงจุ้ยอีกด้วย เริ่มตั้งแต่ สีฟ้าแห่งธาตุน้ำของเป้ยเป้ย สีขาวแห่งธาตุโลหะของจิงจิง สีแดงธาตุไฟของฮวนฮวน สีเหลืองธาตุดินของอิ๋งอิ๋ง และสีเขียวธาตุไม้ของหนีหนี่

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2551

นาฬิกาชีวิต


มีเพื่อนที่เห็นการใช้ชีวิตของเราแบบน่าเป็นห่วง ส่งเรื่องราวนี้มาให้อ่าน เพื่อปรับปรุงเวลาในการใช้ชีวิตให้อายุยืนยาว และมีสุขภาพตามวัย จึงอดไม่ได้ที่จะต้องนำมาเล่าต่อค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า..
การแพทย์ตะวันออกถือว่า กลางวันและกลางคืนมีความสัมพันธ์กับสุขภาพของมนุษย์อย่างแยกไม่ออก โดยมองลึกลงไปอีกว่า ช่วงเวลา 24 ชั่วโมงในหนึ่งวันนั้นภายในร่างกายของมนุษย์ยังมีการไหลเวียนของพลังชีวิตที่ผ่านอวัยวะภายในของร่างกาย ซึ่งประกอบด้วย อวัยวะตันและอวัยวะกลวง
อวัยวะตัน หมายถึง หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต
อวัยวะกลวง หมายถึง กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ระบบความร้อนของร่างกาย (ชานเจียว)
การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลาสองชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง คือ หนึ่งวัน เรียกว่า "นาฬิกาชีวิต"

1.00-3.00 น. เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อนถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงเวลานี้ ตับจะหลั่งสารมีราโทนิน (meratonine) เพื่อฆ่าเชื้อโรคทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากร่างกายจะหลั่งมีราโทนินประจำแล้ว ยังหลั่งสารเอนโดรฟิน (endorphin) ออกมาด้วยจึงไม่ควรกินอาหาร เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว

3.00-5.00 น. เป็นช่วงเวลาของปอด ควรตื่นขึ้นมาสูดอากาศรับแดดตอนเช้า ผู้ที่ตื่นช่วงนี้ประจำ ปอดจะดี ผิวดี และเป็นคนมีอำนาจในตัว???

5.00-7.00 น. ลำไส้ใหญ่ ควรถ่ายให้เป็นนิสัย คนเรามักไม่ตื่นกันตอนนี้ซึ่งเป็นเวลาที่ลำไส้ต้องบีบอุจจาระลง เมื่อไม่ตื่นจึงบีบขึ้น เมื่อไม่ถ่ายตอนเช้าลำไส้ใหญ่จึงรวน แล้วจะมีอาการปวดหัวไหล่ กล้ามเนื้อเพดานจะหย่อน แล้วจะนอนกรนในที่สุด

7.00-9.00 น. กระเพาะอาหาร กินเข้าเช้าตอนนี้จะดี กระเพาะแข็งแรง ถ้ากระเพาะอ่อนแอ จะทำให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย ถ้าไม่กินข้าวเช้าอุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะ กลิ่นตัวจะเหม็นถ้าถ่ายออกหมดจะไม่มีกลิ่นตัวเท่าไหร่

9.00-11.00 น. ม้าม ม้ามจะอยู่ชายโครงด้านซ้าย หน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดหัวบ่อยมักมาจากม้าม อาการเจ็บชายโครงมาจากม้ามกับตับ ม้ามโต จะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ม้ามชื้น อาหารแและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมัน ทำให้อ้วนง่าย คนที่หลับช่วง 9.00-11.00 ม้ามจะอ่อนแอ ม้ามยังโยงไปถึงริมฝีปากคนที่พูดมากช่วงนี้ม้ามจะชื้น ควรพูดน้อยกินน้อย ไม่นอนหลับ ม้ามจะแข็งแรง

11.00-13.00 น. หัวใจ หัวใจจะทำงานหนักช่วงนี้ ให้หลีกเลี่ยงความเครียด หรือใช้ความคิดหนัก หาทางระงับอารมณ์ไว้

13.00-15.00 น. ลำไส้เล็ก **ควรงดกินอาหารทุกประเภท** เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน ลำไส้เล็กทำหน้าที่ดูดสารอาหารที่เป็นน้ำเพื่อสร้างกรดอะมิโนสร้างเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง

15.00-17.00 น. กระเพาะปัสสาวะ จะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้ควรทำให้เหงื่อออก จะออกกำลังการหรืออบตัวกระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง การอั้นปัสสาวะบ่อยจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดทำให้เหงื่อเหม็น

17.00-19.00 น. ไต ควรทำใจให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนตอนนี้ ถ้าง่วงแสดงว่าไตเสื่อม ยิ่งหลับแล้วเพ้อ อาการยิ่งหนัก

19.00-21.00 น. เยื่อหุ้มหัวใจ ช่วงนี้ควรสวดมนต์ ทำสมาธิ ให้ระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ หัวเราะ

21.00-23.00 น. เวลาของระบบความร้อนของร่างกาย ต้องทำร่างกายให้อุ่น ห้ามอาบน้ำเย็นเวลานี้จะเจ็บป่วยได้ง่าย ช่วงนี้อย่าตากลมเพราะลมมีพิษ

23.00-1.00 น. ถุงน้ำดี เป็นถุงสำรองน้ำย่อยที่ออกมาจากตับ อวัยวะใดขาดน้ำ จะดึงมาจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น อารมจะฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวมปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก ตอนเช้าจะจาม ถุงน้ำดีจะโยงถึงปอดจะปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา 23.00 น.
สรุป
1.00-3.00 น. นอนซะ3.00-5.00 น. ตื่นมาสูดอากาศ5.00-7.00 น. ขับถ่าย7.00-9.00 น. กินข้าวเช้า9.00-11.00 น. อย่าพูดมาก กินน้อยๆ อย่านอน11.00-13.00 น. หลีกเลี่ยงความเครียด13.00-15.00 น. ห้ามกิน15.00-17.00 น. ออกกำลังหรืออบตัวให้เหงื่อออก17.00-19.00 น. ทำให้สดชื่น อย่าง่วง19.00-21.00 น. ทำสมาธิ21.00-23.00 น. ทำตัวให้อุ่นๆ ไว้23.00-1.00 น. กินน้ำก่อนนอน